ในปี 2559 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการยานยนต์ไทย นั่นคือ การเริ่มใช้อัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ซึ่งจะคิดตามอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แทนการคิดตามความจุกระบอกสูบแบบเดิม ที่ใช้กันมาตั้งแต่ปี 2527
ผลจากอัตราภาษีใหม่นี้คาดว่า จะทำให้รถบางประเภทมีราคาสูงขึ้นในปีหน้า โดยเฉพาะ พิคอัพ และพีพีวี (พิคอัพ ที่ดัดแปลงเป็นเอสยูวี) รุ่นใหม่ๆ ซึ่งในปีนี้ มีการเปิดตัวพร้อมกันหลายรุ่น วันนี้เราลองมาเปรียบเทียบแนวโน้มราคาของรถกลุ่มนี้ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ภาษีใหม่
(ไอเสียไม่เกิน 200 ก./กม.)
(ไอเสียเกิน 200 ก./กม.)
ไม่มีแคบ
พิคอัพที่ปล่อยไอเสียไม่เกิน 200 กรัม/กิโลเมตร จะเสียภาษี 3 % สำหรับรุ่นไม่มีแคบ 5 % สำหรับรุ่นมีแคบ และ 12 % สำหรับรุ่น 4 ประตู แต่ถ้าปล่อยเกินจากนี้ จะเสียเพิ่มขึ้นเป็น 5 %, 7% และ 15 % ตามลำดับ จากข้อมูลปัจจุบัน พบว่า ส่วนใหญ่มีค่าไอเสียเกิน 200 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งจะส่งผลให้โดนขึ้นภาษีเกือบทุกรุ่น
รถพิคอัพดัดแปลง หรือพีพีวี ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 3,250 ซีซี จากเดิมเสียภาษี 20 % ทุกรุ่น ในอัตราใหม่จะเพิ่มเป็น 25 % สำหรับรถที่ปล่อยไอเสีย ไม่เกิน 200 กรัม/กิโลเมตร และ 30 % สำหรับรถที่ปล่อยไอเสียเกิน ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ส่วนใหญ่นั้นยังมีค่าไอเสียเกิน 200 กรัม/กิโลเมตร หมายความว่า ในปี 2559 รถพีพีวี จะเสียภาษีแพงขึ้นอีก 10 % แทบทุกรุ่น
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 เป็นงานแสดงรถยนต์งานสุดท้าย ก่อนที่จะมีการบังคับใช้อัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ในวันที่ 1 มกราคม 2559 ซึ่งจะส่งผลให้รถยนต์ส่วนใหญ่ในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิคอัพ และพีพีวี มีราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รับรถในปี 2559 จะได้รถที่ใช้ภาษีเดิมในกรณีที่เป็นรถที่ออกจากโรงงานภายในปี 2558 หรือรถค้างสต็อกเท่านั้น ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ ต้องสอบถามกำหนดการรับรถ และตกลงเงื่อนไขเรื่องราคาให้ชัดเจน
แม้รถยนต์ทั้งสองประเภทจะมีราคาสูงขึ้นในปีหน้า จากการบังคับใช้อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ แต่ในระยะยาว คนไทยจะได้ใช้รถพิคอัพ และพีพีวี ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม เพราะอัตราภาษีใหม่ จะกระตุ้นให้ผู้ผลิต พัฒนารถยนต์ของตัวเอง ให้ปล่อยไอเสียไม่เกิน 200 กรัม/กิโลเมตร เพื่ออยู่ในพิกัดภาษีที่เหมาะสม
ที่มา: www.autoinfo.co.th
ภาพ: บริษัทผู้ผลิต
Follow Motor Expo Club Network